การรับประทานยาคุมกำเนิดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งสำหรับผู้หญิงบ้านเราที่นิยมกันอย่างแพร่หลายด้วยความที่สามารถซื้อหาง่ายราคาไม่แพง ด้วยยาคุมกำเนิดแบบธรรมดานั้น ปัจจุบันมีขายกันอยู่ 2 แบบคือ
1. แบบที่รับประทานชนิด 21 เม็ด
2. แบบที่รับประทานชนิด 28 เม็ด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องวิธีการใช้หรือการรับประทานยาคุมกำเนิดในแบบต่างๆผมอยากให้สอบถามจากแพทย์และเภสัชนะครับ ไม่อยากให้อ่านจากที่นั้นที่โน้นแล้วเชื่อปฏิบัติตาม บางทีบางท่านไปอ่านเอาความรู้ผิดๆจากกระทู้บน internet ต่างที่มาทำให้ข้อมูลอาจผิดพลาดได้ ฉะนั้นให้สอบถามแพทย์ครับดีที่สุด
อาการข้างเคียงของการรับประทานยาคุมกำเนิด
อาการที่พบเห็นกันได้บ่อยของผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดแบบธรรมดาก็คือ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่สบายตัวเหมือนจะเป็นไข้เวียนหัว น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น มีอาการเจ็บหน้าออก และยังมีอาการข้างเคียงอื่นๆอีกซึ่งท่านสามารถอ่านได้จากคู่มือที่ซองยาครับ (เอกสารกำกับยา) ซึ่งอาการเหล่านี้มักพบได้ในระยะแรกๆของการรับประทานยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา ในช่วง 3 แผงแรก ถ้าร่างกายสามารถรับได้ก็จะค่อยๆปรับตัวและจะไม่มีอาการนี้อีกแต่หากรู้สึกว่ารับประทานแล้วไม่ดีหรือมีอาการอะไรผิดแปลกออกไป ให้หยุดท่านยาคุมโดยด่วน แล้วให้ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรที่เราซื้อยามารับประทานเพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน
เพื่อความแน่ชัดหรือหากท่านไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรับประทานยาคุมแล้ว จะได้ไม่ใช้ยาคุมกำเนิดแบบผิดๆ ควรจะปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้งเพื่อที่เราจะได้รับคำแนะนำ และปฏิบัติตัวให้ถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพคุมกำเนิด
ในการอีกอย่างยาคุมกำเนิดไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถซื้อรับประทานเองได้นะครับ จากที่ผมได้หาและศึกษามา
กลุ่มคนที่ไม่ควรจะรับประทานยาคุมมีดังนี้ (โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนซื้อมารับประทาน)
1. เป็นผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง และมีความดันโลหิตสูง
2. เคยมีประวัติการรักษาเกี่ยวกับอาการเส้นเลือดอุดตันในเส้นเลือดดำ
3. เคยตรวจหรือพบว่ามีก้อนที่เต้านมโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือเป็นมะเร็งที่เต้านม
4. มีเนื้องอกที่มดลูก
5. ป่วยเป็นโรคตับ หรือตับทำงานไม่ปกติ
6. เป็นหญิงที่มีอายุมากเกินกว่า 45 ปีขึ้นไป
ด้วยความเห็นส่วนตัวแล้ว ซึ่งตัวผมเองก็จะเน้นย้ำเรื่องนี้เป็นประจำ คือ ผมอยากให้ฝ่ายชายหันมาช่วยฝ่ายหญิงบ้าง อย่าปล่อยให้เค้าต้องมาทานยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา หรือ ยาคุมฉุกเฉิน
ผมอยากให้ท่านชายทั้งหลายหันมาร่วมมือกันใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กัน และการใส่ถุงยางอนามัยนี้ไม่เพียงป้องกันการตั้งครรภ์แล้วยังสามารถป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางการร่วมเพศด้วย